แมนซิตี้ มีโอกาสที่จะโดนยึดแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ถ้าหากว่าพวกเขาโดนตัดสินว่ากระทำผิดจริงจากข้อกล่าวหาละเมิดกฎการเงิน หรือ “ไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์”
พรีเมียร์ลีก ประกาศยืนยันว่า “เรือใบสีฟ้า” ทำการละเมิดกฎการเงินมากกว่า 100 ครั้งตลอด 9 ฤดูกาลระหว่างกันยายนปี 2009 ถึงตอนจบฤดูกาล 2017-18 และถ้าหากพวกเขามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา มีสิทธิ์ที่จะโดนลงโทษสถานหนักคือตัดแต้มหรืออาจร้ายแรงถึงกับขนาดขับพ้นลีก รวมทั้งโดนปรับตกชั้น
นอกเหนือจากบทกำหนดโทษดังกล่าวแล้วงานนี้อาจมีผลกระทบกับความสำเร็จในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีของพวกเขาด้วย ด้วยเหตุว่าช่วงเวลาที่โดนกล่าวหานั้น แมนฯ ซิตี้ ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยได้แก่ฤดูกาล 2011/2012, 2013/2014 และ 2017/2018
ถ้าหากเกิดกรณีที่มีการริบแชมป์เกิดขึ้นจริงๆนั่นหมายความว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้าอันดับที่ 2 ในฤดูกาล 2011/2012 กับ 2017/2018 จะได้แชมป์ไปครอง ขณะที่ในซีซั่น 2013/2014 ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์ไปประดับในถิ่นแอนฟิลด์
สำหรับกรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในแวดวงลูกหนังอิตาลีมาแล้ว ตอนที่ ยูเวนตุส โดนคดีกัลโชโปลี (คดีล็อบบี้ผู้ตัดสินเพื่อเอื้อผลจากการแข่งขัน) ทำให้ “ม้าลาย”
โดนปรับตกชั้นไปอยู่ในเซเรีย บี และถูกริบแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ซีซั่น 2004/2005 กับ 2005/2006 โดยแชมป์ฤดูกาล 2005/2006 ถูกยกให้ อินเตอร์ มิลาน
เรือใบสีฟ้า ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาพรีเมียร์ลีก
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงแถลงการณ์ของสโมสรทันที ข้างหลังถูกพรีเมียร์ลีก ตั้งข้อกล่าวหา ละเมิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ โดยยืนยันพร้อมให้มีการพิจารณาสอบสวนอย่างเต็มที่
พรีเมียร์ลีก ยืนยันตั้งข้อกล่าวหา แมนฯ ซิตี้ ละเมิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์มากกว่า 100 ครั้งตลอด 9 ฤดูกาล ภายหลังจากกระทำการสอบสวนเชิงลึกมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
แม้พบว่า แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา จะทำให้พวกเขาโดนลงโทษสถานหนักคือตัดแต้มหรืออาจจะร้ายแรงถึงกับขนาดขับพ้นลีกเลยทีเดียว
ซึ่งทันทีที่ พรีเมียร์ลีก ประกาศออกมา ได้ทำให้ ทีม “เรือใบสีฟ้า” ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที โดยบอกว่า “สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ รู้สึกประหลาดใจกับการออกข้อกล่าวหาการละเมิดกฎของพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมอย่างที่กว้างมาและเนื้อหารายละเอียดจำนวนมากที่พรีเมียร์ลีกได้จัดเตรียมไว้ สโมสรยินดีรับการพิจารณาประเด็นนี้ จากคณะกรรมาธิการอิสระ เพื่อพิจารณาอย่างเป็นกลาง ในเนื้อหาของหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งไม่สามารถหักล้างข้อโต้เถียงได้ เพื่อสนับสนุนจุดยืนของสโมสร โดยเราตั้งหน้าตั้งตารอให้เรื่องนี้ยุติลงอย่างเร็ว”
แมนซิตี้ เจอข้อหาผิดกฎการเงินกว่า100ครั้ง โทษสถานหนักตัดแต้มหรือขับพ้นลีก!
พรีเมียร์ลีก ยืนยันตั้งข้อหา แมนฯ ซิตี้ ละเมิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์มากกว่า 100 ครั้งตลอด 9 ฤดูกาล ภายหลังทำการสืบสวนเชิงลึกมาตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ถ้าผิดจริง อาจส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” โดนลงโทษสถานหนักก็คือตัดแต้มเลยทีเดียว หรือขับพ้นจากลีกเลยทีเดียว จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ
เดอะ ไทมส์ สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก ถูกตั้งข้อหาว่า ละเมิดกฏการเงิน ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์ มากกว่า 100 ครั้งในตอน 9 ฤดูกาล ระหว่าง
ก.ย.ปี 2009 ถึงตอนจบฤดูกาล 2017-18 ภายหลังทางองค์กรได้ทำการสอบปากคำจากทางผู้สนับสนุน และสัญญาต่างๆเป็นเวลา 4 ปี
ทั้งนี้ ทางพรีเมียร์ลีก ได้ออกประกาศยืนยันเรื่องนี้บนเว็บไซต์ทางการเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากพบว่า แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกมีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา จะทำให้พวกเขาโดนลงโทษสถานหนักก็คือตัดแต้มหรืออาจจะร้ายแรงถึงขั้นขับพ้นลีกเลยทีเดียว
แถลงการณ์พรีเมียร์ลีกระบุว่า “ตามกฎที่ระบุไว้ของพรีเมียร์ลีก มาตรา W.82.1 ทางพรีเมียร์ลีก ขอยืนยันว่า วันนี้ ได้มีการส่งข้อกล่าวหาการละเมิดกฎพรีเมียร์ลีกโดยทางสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปยังคณะกรรมการแล้ว”
สำหรับ การสืบสวนเริ่มขึ้นตั้งแต่ธันวาคมปี 2018 ภายหลังที่เว็บไซต์ของเยอรมนี แดร์ สปีเกล
ได้ทำการตีพิมพ์เอกสารจาก ฟุตบอล ลีกส์ ซึ่งหลุดจากแฮ็กเกอร์ชาวโปรตุกีสชื่อ รุย ปินโต ซึ่งได้มีการกล่าวกล่าวหา แมนฯ ซิตี้ มีรายได้จากสปอนเซอร์ที่มากเกินจริง โดยที่เจ้าของสโมสรจาก อาบู ดาบี จ่ายเงินเข้าทีมเอง แทนที่จะเป็นเงินจากสปอนเซอร์ และยังมีการเพิ่มค่าจ้างของอดีตผู้จัดการทีม โรแบร์โต้ มันชินี่ ผ่านการติดต่อกันอย่งลับๆกับสโมสรในอาบูดาบี รวมทั้งแหกกฎเรื่องการเข้าทาบทามนักฟุตบอลเยาวชน
ย้อนกลับไปเมื่อก.พ.ปี 2020 ทาง “เรือใบสีฟ้า” เคยโดนแบนจากรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว และปรับเงินอีกถึง 25 ล้านปอนด์ (ราว 1,000 ล้านบาท) หลังจาก
ถูกทางสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า พบว่าทำผิดกฏไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะถูกศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาสั่งลดโทษเหลือปรับเงิน 9 ล้านปอนด์ (ราว 360 ล้านบาท)
ในตอนเวลา 9 ฤดูกาลดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ ของกลุ่มนายทุนจาก อาบู ดาบี ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกไป 3 สมัย, เอฟเอ คัพ อีก 1 และ ลีก คัพ อีก 3 สมัย โดยภายหลังจาก
ที่ทางพรีเมียร์ลีกออกแถลงการณ์เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 6 ก.พ. 66 ฝั่งสโมสร “เรือใบสีฟ้า” ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆก็ตาม