Friday, 3 May 2024

ฌอน ไดช์ ลั่นพา เอฟเวอร์ตัน หลุดพ้นโซนตกชั้น

“เอฟเวอร์ตัน” ประกาศแต่ง “ฌอน ไดช์” กุนซือชาวอังกฤษ ขึ้นรับตำแหน่งคุมทีม อย่างเป็นทางการ ในถิ่น กูดิสัน พาร์ค เป็นที่เรียบร้อย เพื่อภารกิจพา ทอฟฟี่สีน้ำเงิน รอดจากโซนตกชั้น

“เอฟเวอร์ตัน” ทีมแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศตั้ง “ฌอน ไดช์” ขึ้นรับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม คนใหม่ เป็นที่เรียบร้อย ในถิ่น กูดิสัน พาร์ค พร้อมประเดิมนัดแรก รับมือ อาร์เซน่อล จ่าฝูง

หลังจาก “เอฟเวอร์ตัน” อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตกุนซือ คุมทีมพ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกัน รวมทั้งผลงานไม่ดี เก็บชัยได้เพียง 3 นัด ผ่านครึ่งฤดูกาล 2022-23 รวมทั้งหนำซ้ำนัดล่าสุดบุกไปแพ้ เวสต์แฮม 0-2 ทำให้ทีมตกไปรั้งอันดับรองบ๊วยของตาราง และก็ปลด แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่งในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

โดย “เอฟเวอร์ตัน” ได้กลายเป็นข่าวให้ความสนใจ ที่ปรึกษา หลายคนทั้ง มาร์เซโล บิเอลซา , ดันแคน เฟอร์กูสัน , เวย์น รูนีย์ หรือจะเป็น นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ก่อนที่จะจบ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน จะเลือก “ฌอน ไดช์” เข้ารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีม อย่างเป็นทางการ ด้วยระยะเวลา 2 ปี ครึ่ง หรืออยู่คุมในถิ่น กูดิสัน พาร์ค จนถึงปี 2024-25

ทั้งนี้ “ฌอน ไดช์” กุนซือวัย 51 ปี ผู้ดีอังกฤษ ได้กล่าวว่า ” ถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้จัดการทีมของสโมสร เอฟเวอร์ตัน ผมและก็ทีมงานทุกคนพร้อม ทำอย่างสุดกำลังพาสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้กลับสู่ทางเดิมอีกครั้ง ”

สำหรับสถานกาณ์เวลานี้ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ผ่าน 20 นัด ชนะ 3 เสมอ 6 แพ้ 11 เก็บได้ 15 คะแนน รั้งอันดับรองบ๊วย โซนตกชั้นของตาราง

อย่างไรก็ตาม “ฌอน ไดช์” จะเริ่มเปิดฉากคุมทีม “เอฟเวอร์ตัน” นัดแรกอย่างเป็นทางการ พบกับ อาร์เซน่อล ในฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 19.30 น.

ฌอน

“ไดช์” เปิดใจรับงาน “เอฟเวอร์ตัน” เปิดเผย 4 ภารกิจพาหนีตายพรีเมียร์ลีก

ฌอน ไดช์ เปิดใจหลังจากรับเผือกร้อนในฐานะกุนซือคนใหม่ของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน เผย 4 ภารกิจสำคัญก่อนพาทีมหนีตกชั้น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันที่ 31 ม.ค. 2566 ฌอน ไดช์ วัย 51 ปี ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังรับงานผู้จัดการทีมคนใหม่ของ ทอฟฟี่สีน้ำเงิน ต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด อย่างเป็นทางการ โดยเซ็นสัญญา 2 ปีครึ่ง ถือว่าเป็นการกลับมาคุมทีมครั้งแรกนับจากโดน เบิร์นลีย์ ไล่ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว

ดังนี้ ฌอน ไดช์ ที่เคยมี ประสบการณ์พา เบิร์นลีย์ รอดตกชั้น มาหลายหน จะต้องพบเจอกับความท้าสำหรับการพา ทอฟฟี่สีน้ำเงิน หนีตายในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ภายหลังจากร่วงไปอยู่อันดับที่ 19 มีเพียงแต่ 15 คะแนนจาก 20 นัด แต่ยังอยู่ห่างจากโซนปลอดภัยเพียงแต่ 2 แต้ม

ไดช์

สำหรับ ฌอน ไดช์ เคยพา เบิร์นลีย์ เลื่อนชั้นจาก ศึกแชมเปียนชิพ ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 2 ครั้งในปี 2014 แล้วก็ 2016 รวมทั้งจบครึ่ง บนตาราง คะแนน ของลีกสูงสุด 2 ครั้งในปี 2018 ซึ่งได้อันดับที่ 7 ตีตั๋วไปลุย ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟ คราวแรกในรอบ 51 ปีของสโมสร แล้วก็อีกครั้งในปี 2020 ที่จบชั้น 10

ฌอน ไดช์ เปิดเผยถึง 4 ภารกิจสำคัญก่อนพาทีมหนีตกชั้นพรีเมียร์ลีกว่า”เป้าหมายของเราคือการสร้างทีมให้กลับมาทำงาน, ต่อสู้อย่างเต็มที่, สวมเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์ของสโมสรด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมสานสัมพันธ์กับแฟนๆ ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะพวกเขามีความคลั่งไคล้สูงมาก ทีมนี้เป็นทีมที่มีคุณภาพ แต่เราต้องทำให้พวกเขาเปล่งประกาย นั่นเป็นงานของผมและทีมงาน”

“ผมรู้ว่า เอฟเวอร์ตัน เต็มไปด้วยฐานแฟนบอลที่มีความกระตือรือร้น และสโมสรแห่งนี้มีค่าสำหรับพวกเขามากเพียงใด เราพร้อมที่จะทำงานและพร้อมที่จะมอบสิ่งที่พวกเขาต้องการ โดยเริ่มจากการทุ่มเทหยาดเหงื่อ ความพยายาม และการกลับไปสู่หลักการพื้นฐานบางอย่างที่สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันยืนหยัดมาอย่างยาวนาน”

“เราต้องการนำความรู้สึกดีๆ กลับมา เราต้องการแฟนๆ เราต้องการความสามัคคี และเราต้องการให้ทุกคนมีความสามัคคีกัน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นต้องเริ่มจากพวกเราในฐานะทีมงานและผู้เล่น”

ฌอน ไดช์
เบิร์นลีย์ปลด ฌอน ไดช์ พ้นผู้จัดการทีม

เดอะ คลาเร็ตส์ แถลงปลดที่ปรึกษาชาวอังกฤษออกมาจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว

เบิร์นลีย์ แถลงผ่านเว็บอย่างเป็นทางการเรื่องการปลด ฌอน ไดช์ จากตำแหน่งกุนซือเรียบร้อยแล้ว

ผู้จัดการทีมฟุตบอลวัย 50 ปีพาทีมโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนักในฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาแแพ้ 5 จาก 6 เกมหลังสุด จมอยู่อันดับ 18 ของตาราง สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น หลังมีคะแนนตามหลังโซนปลอดภัยอยู่ 4 คะแนน โดยเหลืออีก 8 เกมในมือ

โดยความแพ้พ่ายต่อ นอริช ซิตี้ ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง 0-2 ในเกมล่าสุด ทำให้ อลัน เพซ ประธานสโมสร แถลงปลด ไดช์ ที่ทำทีมมาร่วม 10 ปีออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้น ไดช์ เข้ามาคุมทีม เบิร์นลีย์ ในปี 2012 ก่อนสามารถพาทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2014/15 ก่อนตกชั้นในฤดูกาลนั้น ก่อนที่เขาจะพาทีมกลับมาได้ในฤดูกาลถัดมา และคุมทีมจนโดนปลดในวันนี้